วันศุกร์, กรกฎาคม 18, 2025
BUSINESS

ไฮเออร์ (ประเทศไทย) คว้าสุดยอดรางวัลอันทรงเกียรติแห่งปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากเวที Superbrands Thailand 2022 การันตีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมในไทย ตอกย้ำคอนเซ็ปต์  Haier Inspired Living พร้อมดันยอดขายเติบโต 30%

 

ไฮเออร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ได้รับรางวัลแบรนด์ไทยแห่งปี 2565 จาก Superbrands ผู้จัดอันดับแบรนด์ระดับโลก เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากความโดดเด่นทั้งด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และเอกลักษณ์ ประกาศพร้อมพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 30% ทุกปี

 

ธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า การที่ไฮเออร์สามารถคว้ารางวัลแบรนด์แห่งปีของ Superbrandsได้ติดต่อกันถึง 3 ปี ถือเป็นหลักฐานให้เห็นถึงความทุ่มเท่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเชื่อถือได้ในทุกกิจกรรมของชีวิต

 

“รางวัลแบรนด์แห่งปีเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้กับองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดย Superbrandsเป็นหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่จัดอันดับมาตรฐานสูงสุดด้านแบรนด์ระดับโลกในกว่า 92 ประเทศทั่วโลก โดยแบรนด์ที่จะชนะรางวัลแบรนด์แห่งปีของไทยนั้นต้องผ่านการให้คะแนนโดยผู้บริโภคกว่า 15,000 คน รวมถึงกลุ่มผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ ตลอดจนบริษัทโฆษณา, ประชาสัมพันธ์ และสื่อมวลชน รวมกว่า 3,500 คน อีกทั้งยังมีหน่วยงาน Superbrands Council ซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระจากทั่วประเทศจนได้ผลลัพธ์เกิน 80% ขึ้นไป”

 

ทั้งนี้ สำหรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของไฮเออร์ (ประเทศไทย) ในครึ่งปีหลังจะมีการออกผลิตภัณฑ์ทีวีรุ่นใหม่ 2 รุ่น และผลิตภัณฑ์ตู้เย็นรุ่นใหม่ที่จะเน้นในเรื่องของการออกแบบ เพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสวยงาม เสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนยีล้ำสมัยที่ตอบสนองความต้องการในด้านการใช้งานเช่นกัน

 

“ไฮเออร์ประเทศไทยมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขาย 30% ในทุก ๆ ปี โดยนอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ยังมีการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน “อยู่ดี” และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งทาง online และ offline เพิ่มขึ้นทุกปี” ธเนศร์กล่าวปิดท้าย