กคช. จัด OPEN HOUSE เปิดบ้าน “บมจ.เคหะสุขประชา” พร้อมเปิดตัวผู้ถือหุ้น ผนึกแรงสร้างบ้านเช่าพร้อมอาชีพเต็มกำลัง
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า บมจ.เคหะสุขประชา ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานในโครงการ “บ้านเคหะสุขประชา” เกิดความคล่องตัวและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ตามเป้าหมายให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยโดยถ้วนหน้า โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง พร้อมลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้มั่นคง และสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ตามนโยบายของรัฐบาลที่มี “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรี
“ภารกิจของเคหะสุขประชารุดหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการร่วมมือกันของการเคหะแห่งชาติ รวมถึงกลุ่ม ผู้ถือหุ้น ที่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนให้ความสำคัญกับการสร้างที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย สะอาด และปลอดภัย โดยได้ดำเนินการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้ควบคู่ขนานไปกับโครงการ ให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และยกระดับคุณภาพชีวิตได้ในแบบ มีบ้าน – มีอาชีพ – มีรายได้ – มีความสุข”
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และประธานกรรมการ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บมจ.เคหะสุขประชา มีการเคหะแห่งชาติ ถือหุ้นใหญ่จำนวน 49.0% และกลุ่มผู้ถือหุ้นอีก 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด 25.0%, บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) 11.0%, บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด 5.0%, บริษัท แฟคซิลิตี้ แมนเนจเมนท์ จำกัด 5.0%, บริษัท มหาจักร อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด 2.5% และบริษัท แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 2.5% โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 500 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนจากการเคหะแห่งชาติ 245 ล้านบาท และเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นรายอื่นที่ไม่ใช่ภาครัฐ 255 ล้านบาท
ทั้งนี้ งบการสร้าง “เคหะสุขประชา บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” จะเป็นการระดมทุนจากภาคเอกชนทั้งหมด รวมกว่า 60,000 ล้านบาท โดยทางเคหะสุขประชา ได้แต่งตั้ง บล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางด้านการระดมทุนดังกล่าวด้วย
สำหรับเป้าหมายของการดำเนินงานก่อสร้างโครงการบ้านเคหะสุขประชา บ้านเช่าพร้อมอาชีพจำนวน 100,000 หน่วย จะใช้เวลาดำเนินงานภายในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปี 2565 ไปจนถึงปี 2568 โดยมีเป้าหมายการก่อสร้างแบ่งเป็นปี 2565-2566 ปีละ 30,000 หน่วย และปี 2567-2568 ปีละ 20,000 หน่วย และยังมีการส่งมอบบ้านเป็นโครงการนำร่องแล้ว ในโครงการ “บ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง” จำนวน 302 หน่วย ตามด้วยโครงการ “บ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า” จำนวน 270 หน่วย ในอัตราเช่าที่ 1,500 – 3,500 บาท/เดือน
ทั้งนี้ โครงการบ้านเคหะสุขประชายังมีการสร้างเศรษฐกิจชุมชนคู่ขนาน ในมิติของ “มีบ้าน – มีอาชีพ – มีรายได้ – มีความสุข” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย ให้สามารถประกอบอาชีพตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยจัดให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่สันทนาการ พื้นที่จอดรถ รวมถึงพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา” ตามความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ ประกอบด้วย 6 รูปแบบ คือ เกษตรอินทรีย์, ปศุสัตว์, ตลาด,ศูนย์การค้าปลีกค้าส่ง, อาชีพบริการในชุมชนและชุมชนข้างเคียง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก มุ่งส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระในชุมชน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ ที่เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย
“โครงการบ้านเคหะสุขประชาเดินหน้าขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว จากนโยบายของ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มั่นใจว่าสังคมที่ดีจะเริ่มต้นขึ้นที่ บ้าน ในครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งบ้านเช่าทั้ง 100,000 หน่วยในโครงการ จะช่วยสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ได้พักอาศัยในที่อยู่ที่ดี มีคุณภาพมาตรฐานในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังสามารถพัฒนาทักษะอาชีพในชุมชนเพื่อสร้างรายได้ นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต รวมถึงยกระดับสังคมอย่างยั่งยืน” นายทวีพงษ์ สรุปทิ้งท้าย