“กิฟฟารีน” เปิดแผนรุกเป็นเจ้าตลาดสกินแคร์ไฮยาลูรอน ปั้น “กิฟฟารีน ไฮยา” เจาะคน New Gen อายุต่ำกว่า 30 ปี ดันยอดสิ้นปีทะลุ 3 ล้านขวด
กิฟฟารีน ส่ง “กิฟฟารีน ไฮยา” เจาะตลาด New Gen หลังพบโอกาสสร้างยอดขาย-เติบโต พร้อมดึงพระเอกจากซีรี่ส์กระแสแรง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และอาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ช่วยดันยอดขาย ลุ้นสิ้นปี 65 กิฟฟารีน ไฮยา ยอดขายแตะ 3 ล้านขวด พุ่งทะยานจากปี 64 ที่ขายได้ 2 ล้านขวด
นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของตลาดสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงหรือดูแลผิวหน้า ที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องรุกทำตลาดเต็มกำลังในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในส่วนของ Giffarine HYA จะบุกทั้ง HYA Super Concentrate (ขวดทอง) และ HYA Intensive Whitening (ขวดขาว) ไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง HYA Intensive Whitening (ขวดขาว) จะมีกลยุทธ์สร้าง Communications แบบครบวงจร ทั้งในเรื่องของการทำ TVC แคมเปญออนไลน์-ออฟไลน์ เซลล์โปรโมชั่น รวมถึงทำเทรนนิ่งให้กับนักธุรกิจ เพื่อปลุกกำลังซื้อ โดยเฉพาะในฐานลูกค้า New Gen ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีทั้งผู้หญิงผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวมองว่า Giffarine HYA Intensive Whitening (ขวดขาว) สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เพราะถือเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านสำหรับผิวหน้า เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลโครงสร้างพื้นฐานของผิวที่ทุกคนต้องการคือ ผิวใส ผิวเนียน และชุ่มชื้น พออายุเพิ่มขึ้นก็ควรใช้ Giffarine HYA Super Concentrate (ขวดทอง) เสริมด้วยถึงจะเห็นผลได้ชัดเจน ว่าผิวจะแข็งแรง และตึงกระชับมากขึ้น
“กิฟฟารีนมีสินค้าหลากหลายและครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ การขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในผลิตภัณฑ์ Giffarine HYA Intensive Whitening คือ เป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายฐานเจาะกลุ่มลูกค้า New Gen ให้หันมาใช้สินค้าแบรนด์กิฟฟารีนเพิ่มมากขึ้น หลังพบว่ามีโอกาสในการทำตลาดสูง เนื่องจากคนกลุ่มนี้หากสินค้าโดนใจ ใช้แล้วเห็นผล จะมีแบรนด์รอยัลตี้สูง จะซื้อซ้ำ ใช้ซ้ำ และบอกต่อ รวมถึงใช้ไปเรื่อยๆ จนถึงวัยผู้ใหญ่ ดังนั้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี จึงเป็นอีกกลุ่มที่เราคาดหวัง ให้เข้ามาทำความรู้จักกับสินค้าของเรา ซึ่งสินค้าของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้ในทุกช่วงวัย”
นายพงศ์พสุ กล่าวว่า การดึง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และอาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ Giffarine HYA Intensive Whitening คือ เหตุผลหลัก ที่บริษัทฯ ต้องการใช้เจาะฐานลูกค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากมายและอาโป มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และหลากหลายทั้งอายุและเพศ จึงอยากให้คนกลุ่มนี้เข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์และได้ลองใช้สินค้าของกิฟฟารีน รวมถึงผูกพันกับแบรนด์มากยิ่งขึ้นผ่านพรีเซนเตอร์ทั้ง 2 คน โดยครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบทำตลาดสำหรับ Giffarine HYA ไว้กว่า 30 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทำยอดขายเติบโตเท่าตัว หรือแตะ 3 ล้านขวดในสิ้นปี 2565 จากต้นปี 2564 ที่ทำยอดขายได้ 2 ล้านขวด
“Giffarine HYA Intensive Whitening และ Giffarine Hya Super Concentrate ทั้ง 2 ตัว ถือเป็น Best Seller ของกิฟฟารีน และเป็น Product Champion ที่ครองใจผู้บริโภคมาโดยตลอด ดังนั้นจึงถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของธุรกิจกิฟฟารีน ในฐานะแบรนด์สัญชาติไทย ที่สามารถทำตลาดและยอดขายได้ไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์ในต่างประเทศ เป้าหมายต่อไป นับจากนี้บริษัทฯ ต้องการทำให้ Giffarine HYA เป็น Unisex เพราะปัจจุบันกลุ่มคนที่ใช้ HYA มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นภาพชัดว่าผู้ชายให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้าเพิ่มมากขึ้น โดยมีสัดส่วนถึง 30%” นายพงศ์พสุ กล่าวทิ้งท้าย