ผ่ากลยุทธ์ “พัทยาฟู้ด” กว่า 44 ปี นำ “นอติลุส” ครองใจผู้บริโภคมายาวนาน ตอกย้ำความเป็นผู้ช่วยในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
นายวิชัย กรณปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด (PFG-Pataya Food Group) เป็นผู้นำในการผลิต และจัดจำหน่ายอาหารทะเล และ อาหารเพื่อสุขภาพภายใต้ แบรนด์นอติลุส (Nautilus), นอติลุสไลท์ (Nautilus Lite), นอติลุสเอ็กซ์เท็น (Nautilus X-Ten), มงกุฎทะเล (Mongkut Talay), ซีคราวน์ (SEACROWN), ขนมขบเคี้ยว ไททัน (TITAN) อาหารพร้อมทาน ม่อนชะเมา (Mont Shamau) และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยม อย่าง อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์รีกาลอส (Regalos), อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพแบรนด์เรมี่ (Remy),
กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด (PFG-Pataya Food Group) ได้ดำเนินธุรกิจมากว่า 44 ปีในประเทศไทย ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด ได้เติบโตอย่างมั่นคงในประเทศไทย และ ต่างประเทศทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่น พัฒนา คุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดเพื่อผู้บริโภค ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าให้กับอาหารทุกมื้อ อันนำไปสู่การมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข
นายวิชัย กล่าวว่า “ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ดดําเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารทะเลในประเทศไทยมา ด้วยความยึดมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการ ภายใต้หลักแนวคิด “เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคอย่างองค์รวม” ภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม และกว่า 4 ทศวรรษที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย เราเผชิญกับความท้าทายในหลายมิติ ทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมต่างๆ โดยในช่วง 10 ปีแรก ความท้าทายคือการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเพื่อให้ส่งออกได้ ดังนั้นเราลงทุนพัฒนาระบบการผลิตจนได้มาตราฐานสากลอย่าง ISO ช่วงนั้นคติประจำใจของชาวพัทยาฟู้ด คือ “Passion for Quality” เมื่อมีระบบการผลิตที่มีคุณภาพเราก็เริ่มผลิตสินค้าของตนเอง ภายใต้แบรนด์ “นอติลุส” ซึ่งในช่วง 10 ปีที่สอง เราลงทุนกับการสร้างแบรนด์ ถือเป็นแบรนด์ทูน่าที่ทำการตลาดในช่วงแรกๆในประเทศไทย การทำแบรนด์ในประเทศไทยสร้างโอกาสให้เราขยายตลาดผ่านพันธมิตรไปยังประเทศฝรั่งเศส จีน และ เวียดนาม เป็นต้น 10ปีที่สามเราก็พบกับวิกฤตเรื่องวัตถุดิบและแรงงานที่หายากขึ้น เราจึงตัดสินใจขยายฐานการผลิตไปยังประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ด้วยสภาวะอากาศที่ผันผวนบางปีส่งผลให้ราคาวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูน่าพุ่งสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการผลิต และ ตลาด ทำให้เราตัดสินใจปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายอย่าง ตั้งแต่การขยายพอร์ตโฟลิโอของสินค้าที่นอกเหนือจากอาหารทะเลกระป๋อง และมุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์ของตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงในธุรกิจ และสามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว”
ปัจจุบัน พัทยาฟู้ดฯ ผลิตอาหาร 75% และอาหารสัตว์เลี้ยง 25% จำหน่ายในประเทศไทยและส่งออก บริษัทมียอดขายกว่า 8 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา ธุรกิจของพัทยาฟู้ดฯ มีการเติบโตเฉลี่ยกว่า 11% ตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมา โดยใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้าง เพื่อเพิ่มพื้นที่การผลิต และจัดเก็บสินค้า รวมทั้งระบบจัดเก็บคลังสินค้าอัตโนมัติที่โรงงานผลิตที่มหาชัย สมุทรสาคร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากขึ้น 25% นอกจากสินค้า“นอติลุส” ที่เป็นที่รู้จักกันดีแล้ว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้แนะนำสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ แบรนด์ ม่อนชะเมา, นอติลุส เอ็กซ์เท็น และเรมี่
“ม่อนชะเมา” เกิดจากความตั้งใจของพัทยาฟู้ด ที่นำปรัชญาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาช่วยสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในชุมชนไปพร้อมๆ กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ผู้บริโภค เรามุ่งมั่นสรรหาของดีในจังหวัดต่างๆที่เป็นผัก ผลไม้มาช่วยทำตลาดผ่านบริษัทในเครือ สำหรับสินค้าภายใต้ “ม่อนชะเมา” จะมีทั้งผัก ผลไม้ ออร์แกนิค, ผัก-ผลไม้ปลอดภัย ปลูกในดินด้วยวิถีธรรมชาติ ตลอดจน อาหารพร้อมทาน ขนม ที่อร่อยและสุขภาพดี แบบ “benecious food” โดยชื่อ ม่อนชะเมา มีที่มาจาก เขาชะเมา เนื่องจากจุดตั้งต้น คือการเริ่มทำสวนผักและผลไม้ออร์กานิคใกล้ๆเขาชะเมา จังหวัดระยอง โดยปัจจุบันบริษัทได้เริ่มวางจำหน่ายทุเรียนในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และได้เปิดร้าน “ม่อนชะเมา” ภายใต้คอนเซ็ปต์ แกร๊บแอนด์โก เปิดบริการที่ชั้นล่างของตึกสยามสเคป และมีแผนจะเปิดบริการเพิ่มในอนาคต
“นอติลุส เอ็กซ์เทน” เป็นอาหารคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่พร้อม “Extend Happiness” เพราะเราตั้งใจจะช่วยยืดสุขให้สุขภาพ และสร้างความสุขของผู้บริโภคให้สอดคล้องกับรูปแบบชีวิตที่ทันสมัย และมีไลฟ์สไตล์อันเร่งรีบในชีวิตประจำวัน โดยให้เรื่องสะดวกพร้อมรับประทาน โดยสินค้ากลุ่มแรกที่ออกคือ ผลิตภัณฑ์มัลติเกรนโอ๊ตมีล ตอบสนองเทรนด์ “ซุปเปอร์ฟู้ด” ซึ่งเป็นเทรนด์อาหารสุขภาพที่แพร่หลายไปทั่วโลก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ใส่ผงชูรส และไม่ใส่วัตถุกันเสีย พร้อมเป็นทางเลือกของการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคในทุกช่วงวัย
“ไททัน” เป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยว เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ ความแตกต่างของเรา คือ เราผลิตจากหนังปลาแซลมอนธรรมชาติ (ไม่ใช่ฟาร์ม) จึงอุดมไปด้วยโปรตีน และโอเมก้า 3, 6, 9 สินค้านี้ทอดด้วยน้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างน้ำมันรำข้าว ทำให้มีโอเมก้า 3, 6, 9 สูงกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาดถึง 10 เท่า ไม่ใส่วัตถุกันเสีย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่อยากรับประทานขนมขบเคี้ยวที่อร่อย และไม่รู้สึกผิด พร้อมเติมสีสันให้ทุกกิจกรรมของคุณ ในปีนี้สินค้าจะวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เช่น ท็อปส์ โลตัส
สำหรับกลุ่มอาหารสัตวเลี้ยง ในช่วงปี 2560 บริษัทได้ออกแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง แบรนด์แรกของกลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด คือ “รีกาลอส” ซึ่งเป็นภาษาสเปนมีความหมายว่า “ของขวัญ” และนำมาใช้เป็นแนวคิดการพัฒนาสินค้า ที่ความมุ่งมั่นจะมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับน้องแมวอันเป็นสมาชิกในครอบครัวแสนรักของเรา ตื่นเต้น และร้องว้าว!! ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงในระดับเดียวกับอาหารคน ไม่ใส่สารปรุงแต่ง ไม่เติมเกลือ และวัตถุกันเสีย สินค้ามีหลายประเภททั้ง อาหารเปียก และขนมขบเคี้ยวสำหรับแมว สินค้าของรีกาลอส ครอบคลุม ตั้งแต่ลูกแมวแรกเกิด จนถึง แมวสูงวัย
ล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัว “เรมี่” แบรนด์สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง (wellness pet food) ที่ร่วมทุนกับ รพ สัตว์ทองหล่อ โดยคอนเซ็ปของเรมี่ คือ ผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่ตั้งใจส่งมอบสุขภาพที่ดีให้สมาชิกแสนรัก พัฒนาสูตรโดยทีมนักโภชนาการสัตวแพทย์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สุขภาพดี…ที่ให้ด้วยรัก” พร้อมลุยตลาดด้วยขนมแคลอรี่ต่ำและอาหารสูตรเสริมสุขภาพสำหรับน้องแมวในเดือนเมษายน ตามด้วยอาหารสำหรับน้องหมาในเดือนมิถุนายน ด้วยความมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกภายในสามปี
สำหรับปี 2566 นี้ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด นอกจากตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์แล้ว บริษัทยังได้วางแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนไว้ทั้งในระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากปีฐาน 2565 ลงให้ได้ 50% ภายในปี 2575 และในแต่ละปียังมีกิจกรรมสนับสนุนนโยบาย ESG ควบคู่ไปกับการดําเนินธุรกิจภายใต้นโยบาย ปกป้องคุ้มครองสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล, การใช้พลังงานสะอาด, การใช้พลังงานทดแทน, การจัดการบรรจุภัณฑ์โดยใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล, การทําโครงการ U-Turn ร่วมกับ PTT GC, การส่งเสริมคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของพนักงานรวมถึงการดูแลชุมชน และสังคมรอบข้าง ตามหลักการบรรษัทภิบาล และจรรยาบรรณทางธุรกิจ อย่างเคร่งครัด
“นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายผ่านแบรนด์ต่างๆ โดยเราไปร่วมงาน ” THAIFEX – Anuga Asia 2023 ” ระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี Challenger 3 Booth No : 3-G59 นำโดย แบรนด์หลักคือ นอติลุส, นอติลุสไลท์, นอติลุสเอ็กซ์เทน มงกุฎทะเล และแบรนด์ใหม่ๆ พร้อมเตรียมสินค้านวัตกรรมใหม่ของทางบริษัทไปเปิดตัว และเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก ที่จะเข้ามาเยี่ยมชมงาน” วิชัยกล่าวทิ้งท้าย