เชลล์ จับมือปอร์เช่ ผสานกำลังสองแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงจากมาเลเซียสู่ประเทศไทย
เชลล์ และปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก เดินหน้าประกาศความร่วมมือระดับภูมิภาค เปิดตัวเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ข้ามพรมแดนแห่งแรกของเชลล์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เมืองตังกัก รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ให้ลูกค้าสามารถจองจุดชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ล่วงหน้า และชำระเงินไร้สัมผัสผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และไร้กังวลตลอดเส้นทางไฮเวย์จากเหนือจรดใต้พร้อมสัญจรสู่ประเทศสิงคโปร์ได้อย่างไร้อุปสรรค และเร็ว ๆ นี้ เชลล์และปอร์เช่พร้อมจะเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงดังกล่าวมายังประเทศไทย เพื่อให้การเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยของลูกค้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
ภายใต้ความร่วมมือนี้ สถานีบริการเชลล์จำนวน 6 แห่งในประเทศมาเลเซีย จะติดตั้งเครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง Direct-current (DC) Chargers ขนาด 180 กิโลวัตต์ ที่ให้ประสิทธิภาพการชาร์จพลังงานไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในประเทศมาเลเซีย ลดระยะเวลาการรอคอยให้กับลูกค้า โดยจะสามารถชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) จากระดับความจุแบตเตอรี่ 0 จนถึง 80% ได้ภายในระยะเวลาประมาณ 30 นาที หรือคิดเป็นระยะทางสูงสุดที่สามารถเดินทางได้ถึง 390 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP[1]) และจะเดินหน้าปักหมุดหมายขยายเครือข่ายการให้บริการมายังประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้มีเครือข่ายสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) มากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเชื่อมต่อการชาร์จในกรุงเทพฯ ตลอดจนเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ อีกหลายแห่ง การเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคกับปอร์เช่ด้วยการมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการลูกค้าผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า นับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของเชลล์ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Powering Progress เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593
นวัตกรรมการเดินทางและขนส่ง เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
เรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ภายใต้แนวคิด ‘เติมสุขให้ทุกชีวิต’ เชลล์มุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์ Powering Progress ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจ E-mobility ในภูมิภาคและประเทศไทย ในฐานะบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก เชลล์ภูมิใจมากที่ได้ร่วมมือกับปอร์เช่ ซึ่งมีนวัตกรรมโดดเด่นในอุตสาหกรรมรถยนต์ชั้นนำระดับโลก เพื่อร่วมกันส่งมอบนวัตกรรมที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้รวมถึงประเทศไทย การเป็นพันธมิตรกันครั้งนี้ มิใช่เป็นเพียงการร่วมมือกันของสองแบรนด์ชั้นนำด้านคุณภาพในอุตสาหกรรมโมบิลิตี้เพื่อมอบความสุขให้กับลูกค้าเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์อีกด้วย เชลล์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ พร้อมเดินหน้าขยายจำนวนเครือข่ายสถานีบริการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ Shell Recharge ให้ครอบคลุมทำเลสำคัญทั่วประเทศไทยต่อไป”
ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด “ปอร์เช่ มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอนาคตอุตสาหกรรมโมบิลิตี้ในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าภายในปี พ.ศ. 2573 ความร่วมมือกับเชลล์ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เรามีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ตรงกัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมทางเลือกการชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าที่หลากหลาย รวมถึงมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับลูกค้าของเราที่เป็นเจ้าของรถพลังงานไฟฟ้าปอร์เช่ทุกคันอีกด้วย ด้วยเครือข่ายของสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงใหม่นี้ เรากําลังทําให้การเดินทางไกลข้ามพรมแดนโดยปราศจากการปล่อยมลพิษ ที่เคยเป็นเพียงวิสัยทัศน์ ให้กลายเป็นความจริงได้ในที่สุด”
[1] กระบวนการทดสอบยานยนต์เบาเพื่อความสอดคล้องกันทั่วโลก (Worldwide Harmonized Light Vehicles Test Procedures (WLTP)) เป็นการทดสอบเพื่อวัดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อย CO2 ตลอดจนการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล