กลุ่มธุรกิจ TCP ประกาศเป้าหมายใหม่ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่ม พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในไทยและต่างประเทศ
กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ ไฮ่! เพียวริคุ ซันสแนค และ วอริเออร์ ประกาศเป้าหมายใหม่ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” หรือ “Energizing a better world for all” ชู 3 กลยุทธ์หลัก ปลุกพลังแบรนด์สินค้า ปลุกพลัง ธุรกิจเติบโต และ ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม ด้วยแผนงาน 3 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 -2567 เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในด้านธุรกิจพร้อมสร้างผลกระทบในทางบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งไทยและต่างประเทศ
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า “เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราประกาศรวมแบรนด์องค์กร “กลุ่มธุรกิจ TCP” และเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ถึงปัจจุบันเหตุการณ์ต่างๆ เช่น โควิด-19 การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เราจึงกลับมาคิดทบทวนเป้าหมาย และกลยุทธ์ในทุกๆ ส่วน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงสร้างการเติบโตให้กับองค์กรพร้อมกับปลุกพลังความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ ด้วยเป้าหมายใหม่ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า”
ปลุกพลังแบรนด์สินค้า (Fulfilling)
เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 10 ตัวภายใต้แบรนด์ “กระทิงแดง” เครื่องดื่มให้พลังงานระดับโลกและเป็นผู้นำในตลาดเอเชีย ภายใน 3 ปีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างความแตกต่างทั้งรสชาติและภาพลักษณ์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงส่งแบรนด์อื่นๆ ภายใต้ House of Great Brands เข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชีย และพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ๆ อย่างน้อย 5 ผลิตภัณฑ์ ด้วยการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค (Unmet needs) มุ่งเน้นไปที่ตลาดด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ( Health & Wellness)
ปลุกพลัง ธุรกิจเติบโต (Growing)
กลุ่มธุรกิจ TCP ยังเดินหน้ารุกตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนการลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท และเพิ่มกำลังการผลิตในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยตั้งเป้ารายได้โต 2 เท่าเป็น 90,000 ล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ในองค์กรด้วย Digital Transformation โดยนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นตั้งแต่การบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล (Data management & Analysis) ระบบการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) และการบริหารจัดการข้อมูลจากช่องทางการสื่อสารต่างๆ (Omnichannel) รวมถึงพัฒนาบุคคลากรให้เติบโตไปพร้อมเทคโนโลยี อีกทั้งยังส่งเสริมการทำงานในลักษณะของ Work-life integration ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว
ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring)
จากเป้าหมายใหม่นี้ กลุ่มธุรกิจ TCP ยกระดับการทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยมุ่งเน้นไปยังเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่องได้แก่ การตั้งเป้า “เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” จากทุกกระบวนการทำงานทั้งธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ ภายในปีพ.ศ. 2593 “บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน Circular Economy” พัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจ TCP ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปีพ.ศ. 2567 จับมือกับพันธมิตรที่เป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก เพื่อสนับสนุนการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคทั้งขวดแก้ว กระป๋องอลูมิเนียม และขวดพลาสติกเข้าสู่ระบบ กลับเข้ามาสู่วงจรการรีไซเคิล และด้าน “Water Sustainability การจัดการน้ำยั่งยืน” ตั้งเป้าคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Net Water Positive) ภายในปีพ.ศ. 2573 โดยมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ลดการใช้น้ำ และทำงานร่วมกับพันธมิตรและชุมชนใน 3 ประเทศ คือ ไทย จีน และเวียดนามที่มีโรงงานตั้งอยู่ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ทรัพยากรน้ำในพื้นที่ดังกล่าว
“ด้วยเป้าหมายใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” หรือ Energizing a better world for all ที่จะเดินหน้าด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ ปลุกพลังแบรนด์สินค้า (Fulfilling) ปลุกพลังธุรกิจ เติบโต (Growing) และ ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring) จะนำไปสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในไทยและต่างประเทศ และร่วมปลุกพลังให้กับสังคมไทยต่อไป” นายสราวุฒิ กล่าว