“กาแฟพันธุ์ไทย” ผนึก “มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์” ส่งแคมเปญ “โพดจุกใจ ไร่สุวรรณ” หนุนเกษตรกรพร้อมรุกตลาดกาแฟ แบไต๋ยุทธศาสตร์ดันยอดขาย ลุยขยายแฟรนไชส์ทั่วประเทศ เผยรายได้ Q1 เพิ่มขึ้น 70% จากปี 65 คาดปิดปี 66 กำไรโต 2 เท่า
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่องโครงการแรกที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกันในการสนับสนุนการศึกษา ส่งเสริมงานวิจัย ตลอดจนพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมต่างๆ พร้อมสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผ่านร้านค้า และแบรนด์ต่างๆ ภายในเครือ ไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมันพีที ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และร้านสะดวกซื้อแมกซ์มาร์ท ทั่วประเทศ”
“การจับมือกับสถาบันการศึกษาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เชิงรุกของ “กาแฟพันธุ์ไทย” ในการผลักดันยอดขาย และเดินหน้าเพิ่มสาขาแฟรนไชส์ให้ได้ตามเป้า โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย สามารถทำยอดขายได้กว่า 350 ล้านบาท เติบโตกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันถึง 70% และเติบโตจากสาขาเดิมถึง 35% ประกอบกับภาพรวมของตลาดกาแฟในปัจจุบันที่เติบโตเป็นอย่างมาก จากการเปิดเผยข้อมูลของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ‘ดีพร้อม’ พบว่ามีการบริโภคกาแฟในประเทศสูงถึง 70,000 ตันต่อปี ขณะที่ประเทศไทยผลิตได้เองเพียง 10,000 ตันต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลตลาดกาแฟโลก คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดกาแฟในช่วงปี 2564-2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 9% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.91 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ชี้ให้เห็นปัจจัยบวกของกาแฟในประเทศไทย ที่เต็มไปด้วยโอกาสเติบโตอีกมาก” คุณพิทักษ์ กล่าวเสริม
ผศ.ดร.นิคม แหลมสัก รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพีทีจี มีอุดมการณ์บนจุดมุ่งหมายเดียวกันคือความมุ่งมั่นขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือจัดทำโครงการนำร่องในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ภาคเอกชนอย่างกาแฟพันธุ์ไทยเห็นความสำคัญของการสนับสนุนเกษตรกรไทย โดยเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศ พร้อมส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรให้กับหน่วยธุรกิจของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อร่วมกันสนับสนุนชุมชน สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกรไทย พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
รศ. ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย คณบดี คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเสริมว่า “ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้วิจัยคิดค้นพันธุ์ข้าวโพดหวาน ที่มีรสชาติ และคุณลักษณะทางการเกษตรที่ดี จนกระทั่งได้พันธุ์ข้าวโพดหวานอินทรี 2 ที่มีความหวานจากธรรมชาติโดยเฉลี่ย 14.5 องศาบริกซ์ มีรสชาติหวาน นุ่ม และหอม เมื่อมีการนำมาแปรรูปเป็นน้ำนมข้าวโพดจึงมีรสชาติที่หอมหวานไม่เหมือนใคร อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของไร่สุวรรณที่ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทย พร้อมต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ก้าวไปอีกขั้น เพื่อส่งมอบคุณค่าสู่ชุมชน เกษตรกร และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป”
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนให้ “กาแฟพันธุ์ไทย” บรรลุเป้าหมายการขยายแฟรนไชส์ 1,500 สาขา ผลักดันกำไรให้เติบโต 2 เท่า ภายในสิ้นปี 2566 นี้ ประกอบด้วย
1) การขยายสาขาทั่วประเทศด้วยโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ โดยเน้นการเปิดสาขาที่ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย (Coverage Expansion) เข้าถึงได้ง่าย (Accessibility) และเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ (Visibility) โดยเน้นการขยายสาขาใจกลางเมืองในย่านธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมไปถึงหัวเมืองตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและง่ายต่อการเข้าถึง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน โดยกลยุทธ์ที่กาแฟพันธุ์ไทยมุ่งเน้นคือการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยรูปแบบการลงทุนและโมเดลที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับทำเลในแต่ละพื้นที่ และสอดคล้องกับงบประมาณการลงทุน
ปัจจุบันร้านกาแฟพันธุ์ไทยเปิดให้บริการกว่า 600 สาขา มีสัดส่วนของสาขาที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 60% และสาขานอกสถานีบริการน้ำมันอีก 40% ซึ่งภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ได้ 800 สาขา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรวม 1,500 สาขาทั่วประเทศ ภายในสิ้นปี 2566 นี้ ด้วยรูปแบบการลงทุนที่ง่าย คุ้มค่า แม้ไม่มีประสบการณ์ก็เปิดร้านได้ บริษัทฯ มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการร้าน, วัตถุดิบต่างๆ รวมถึงการควบคุมคุณภาพ และรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารภายในร้าน ด้วยงบลงทุนเริ่มต้นเพียง 1.25 ล้านบาท/สาขา เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านกาแฟพันธุ์ไทยได้ง่ายๆ ธนาคารที่เป็นพาร์ตเนอร์สำหรับพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเพื่อการลงทุน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีทำเลที่ตั้ง ทางบริษัทจะนำเสนอทำเลให้ผู้สมัครแฟรนไชส์พิจารณาตามความเหมาะสม ลงทุนก่อนมีสิทธิเปิดร้านก่อน และทางบริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมเป็นเอ็กเซ็กคูลซีฟแฟรนไชส์ (Sub-Area Franchise) อีกด้วย
2) การนำเสนอสินค้าใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่น ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และหาทานได้ยากของไทย มาพัฒนาสร้างสรรค์เป็นเครื่องดื่มเมนูต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าของทางกาแฟพันธุ์ไทยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่ชุมชนและเกษตรกรไทยให้ “อยู่ดีมีสุข” และเติบโตอย่างยั่งยืน
3) การเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Non-Beverage ด้วยสินค้ากลุ่มเบเกอรีและขนมอบ (Bakery & Pastry) ขนมแปรรูปจากชุมชนทั่วประเทศ (Pack Food) สินค้าที่ระลึกและของพรีเมียมจากแบรนด์ (Merchandising) รวมไปถึงเมล็ดกาแฟและกาแฟ ดริปพร้อมดื่มที่บ้าน เพื่อเพิ่มยอดขายต่อบิลให้มากขึ้น
4) การขยายและรักษาฐานลูกค้าสมาชิก Max Card ในปัจจุบันที่มีกว่า 19 ล้านราย ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะสามารถเพิ่มสมาชิกในระบบได้มากกว่า 21 ล้านรายทั่วประเทศ โดยสามารถเชื่อมโยงฐานข้อมูลสมาชิกมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการสร้างยอดขายและเพิ่มความถี่ในการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายหลักในการขยายฐานสมาชิก Max Card Plus หรือบัตรแดง ให้เพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าประจำที่มี Brand Royalty และมีกำลังซื้อสูงกว่ากลุ่มทั่วไปมากกว่า 2 เท่า
“กาแฟพันธุ์ไทย ได้ดำเนินธุรกิจก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 แล้ว และยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์เครื่องดื่มรสชาติดี ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีคุณภาพและหาทานได้ยากทั่วประเทศ ด้วยความมุ่งหวังให้ชุมชนและเกษตรกรไทย ‘อยู่ดีมีสุข’ อย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยต่อไป โดยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เราจะสร้าง Brand Connection ด้วยการ Refresh แบรนด์ใหม่ให้มีความน่าสนใจ ต่อยอดแนวคิด ‘เวลาเป็นไท เวลาพันธุ์ไทย’ พร้อมเพิ่มการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงาน ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพสินค้าและบริการที่แตกต่างและตรงกับความต้องการของคนไทย สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ทุกวัย รวมทั้งพัฒนารสชาติกาแฟให้โดนใจผู้บริโภค ส่งผลให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีนัยยะสำคัญของเราในช่วงปีที่ผ่านมา” พิทักษ์ กล่าวสรุป
พบกับความอร่อยระดับตำนานที่ทุกคนหลงรัก “นมข้าวโพดไร่สุวรรณ” ของดีจากปากช่อง ความหอมนุ่ม ส่งตรงจากไร่สุวรรณ ฟินกับ 3 เมนูใหม่ “โพดจุกใจไร่สุวรรณ” ได้ทุกวัน ไม่ต้องไปไกลถึงปากช่อง ทั้งโพดลาเต้ กาแฟพันธุ์ไทยและนมข้าวโพดไร่สุวรรณ หอมหวานเข้มข้น โพดชาเขียว ชาเขียวพันธุ์ไทยและนมข้าวโพดไร่สุวรรณ หอมหวาน กลมกล่อม โพดโกโก้ โกโก้พันธุ์ไทยและนมข้าวโพดไร่สุวรรณ หอมหวานลงตัว เพิ่มเทกเจอร์ความอร่อยนุ่มทุกเมนู ด้วยเมล็ดข้าวโพดหวานเคี้ยวเพลิน ในราคาเพียงแก้วละ 69 บาท สัมผัสความอร่อยสดชื่นกันแบบโพดโพดได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 – 20 กรกฎาคม 2566 ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ และบริการจัดส่งถึงบ้าน