วันจันทร์, เมษายน 21, 2025
BUSINESS

ทีเคพาร์ค ก้าวสู่ปีที่ 17 ลุยสร้าง ระบบนิเวศการเรียนรู้ประเทศไทยโฉมใหม่ เตรียมดึงเทคโนโลยีอัพดีกรีการเรียนรู้คนไทยไม่สะดุดแม้มีวิกฤติ

 

สถาบันอุทยานการเรียนรู้ หรือ “ทีเคพาร์ค” (TK Park)  เดินหน้าภารกิจสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 เปิดผลงานเด่นความสำเร็จการเป็นต้นแบบพื้นที่แห่งการเรียนรู้ปี 64 สร้างเครือข่ายสู่อุทยานการเรียนรู้ระดับจังหวัดและชุมชนกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการผลักดันและส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ส่งผลยอดยืมหนังสือเพิ่มขึ้นกว่า 400,000 รายการในช่วงล็อกดาวน์ พร้อมชูวิสัยทัศน์ปี 65 มุ่ง “สร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้แห่งอนาคต” (Innovative Future Learning Ecosystem) ตั้งเป้าดึงเทคโนโลยีในการให้บริการ 24 ชั่วโมง ผลักดันให้เกิดเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมไทย

 

นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ เปิดเผยว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่เปิดให้บริการ ทีเคพาร์คได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจในการสร้างสรรค์แหล่งเรียนรู้ ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนขยายผลสู่เครือข่ายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าวคือการสร้างให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้คนในท้องถิ่น การจัดการและต่อยอดองค์ความรู้ รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีเป้าหมายในกลุ่มเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ การทำงานของทีเคพาร์คจึงไม่ใช่เพียงการสร้างห้องสมุด แต่เป็นการสร้างพื้นที่เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ขยายผลสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศไทย สำหรับการดำเนินงานในปี 2564 ทีเคพาร์ค ยังคงส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมเด่น ดังนี้

 

  1. TK Public Online Library นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายในเชิงพื้นที่กายภาพแล้ว ทีเคพาร์คยังมีการสร้างพื้นที่การอ่านออนไลน์ โดยมีหนังสือให้เลือกอ่านผ่านแอปพลิเคชันกว่า 30,000 เล่ม ซึ่งถือได้ว่าเป็นห้องสมุดสาธารณะออนไลน์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของประเทศไทย

 

  1. เว็บไซต์ The Kommon ที่เป็นแหล่งชุมนุมความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้ และการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ด้วยเนื้อหาสาระที่ครอบคลุมด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ห้องสมุด หนังสือ การส่งเสริมการอ่าน นวัตกรรมการเรียนรู้ เน้นปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหว แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นพื้นที่แสวงหาความรู้และจุดประกายแนวคิดใหม่ให้ทันโลก

 

  1. TK Book Delivery บริการจัดส่งหนังสือถึงบ้านสมาชิกทั่วประเทศผ่านการร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยได้จัดส่งหนังสือไปแล้วกว่า 5,000 กล่อง ใน 39 จังหวัด

 

  1. ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ในช่องทางออนไลน์ ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทีเคพาร์คยังคงมุ่งส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ในช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการให้บริการห้องสมุดออนไลน์ ที่สถิติการยืมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงล็อคดาวน์ ในปีที่ผ่านมามียอดการยืมกว่า 400,000 รายการ รวมถึงการอบรมผู้สูงอายุในด้านการใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ๆ ที่สามารถช่วยเหลือในการใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกิจกรรมออนไลน์ของเด็กเล็ก ในด้านส่งเสริมพัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์และสติปัญญาผ่านนิทาน

 

นายกิตติรัตน์ กล่าวเสริมว่า “ตลอดช่วง 17 ปีที่ผ่านมา อุทยาการเรียนรู้ TK Park ที่ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นเสมือนจุดเริ่มต้น ทั้งในแง่ของวิธีคิดของห้องสมุดมีชีวิตและวิธีการทำงาน จนนำไปสู่การขยายผลจากอุทยานการเรียนรู้ต้นแบบสู่อุทยานการเรียนรู้ระดับจังหวัด จำนวน 34 แห่ง ในพื้นที่ 25 จังหวัดทั่วประเทศ และในระดับชุมชนอีกกว่า 300 แห่ง และในเร็วๆ นี้ กำลังจะเปิดให้บริการอุทยานการเรียนรู้ระดับจังหวัดเพิ่มอีกจำนวน 3 แห่ง คือที่จังหวัดปราจีนบุรี สุราษฏร์ธานี และ พะเยา รวมถึงมีความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ในการร่วมพัฒนาการให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและกระจายความรู้ให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานใน ‘ห้องสมุดพร้อมปัญญา’ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายการให้บริการองค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี แก่เยาวชนและประชาชนได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”

 

ทั้งนี้ อีกหนึ่งเป้าหมายของการบริการด้านการเรียนรู้ของทีเคพาร์ค คือเชื่อมโยงการให้บริการเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สามารถใช้บริการหนังสือได้จากอุทยานการเรียนรู้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย รวมทั้งมีแผนการพัฒนาตู้บริการหนังสืออัตโนมัติต้นแบบเพื่อนำมาทดลองให้บริการในที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายในการให้บริการ 24 ชั่วโมงผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่

 

“ทีเคพาร์คพร้อมที่จะก้าวออกจากกรอบของความเป็นพื้นที่เรียนรู้หรือห้องสมุดแบบตั้งรับ แต่เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระตุ้นให้เกิดดีมานด์ และเป้าหมายที่จะเรียนรู้ เมื่อเราทำให้คนอยากเรียนรู้ และมีหนังสือ สื่อ และกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ เข้ามารองรับ เชื่อว่าระบบนิเวศก็น่าจะเกิดขึ้นได้ โดยปลายทางคือการผลักดันให้เกิดเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางยูเนสโก ที่ทีเคพาร์คจะร่วมผลักดันกับเครือข่ายทั้งในระดับของบุคคล ชุมชน และเมือง” นายกิตติรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย